ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 108
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับถ้อยแถลง ของมโหสถแล้ว ก็ทรงเข้าใจแจ่มแจ้ง และทรงเห็นชัดว่า มโหสถบัณฑิตเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน แต่ผู้ผิดกลับเป็นอาจารย์ทั้ง ๔ เสียเอง จึงทรงสั่งลงอาญาให้คุมตัวอาจารย์ทั้ง ๔ ออกจากเรือนจำ แล้วนำตัวไปตัดหัวเสีย
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 107
มโหสถบัณฑิตกราบทูลว่า “จะเปิดเผยก็ได้พระพุทธเจ้าข้า แต่ต้องเลือกบุคคลที่จะเปิดเผยให้ถ่องแท้ หากว่าุบุคคลนั้น เป็นสตรีผู้มีใจคอไม่หนักแน่น ๑ เป็นผู้ที่ไม่ใช่มิตร ๑ เป็นผู้ฝักใฝ่ในอามิส คือมีความโลภในทรัพย์ ๑ เป็นผู้ที่มิใช่มิตรแต่ทำทีว่าเป็นมิตรด้วยแฝงความต้องการบางอย่าง ๑ บุคคลเหล่านี้ บัณฑิตต้องเว้นเสียเด็ดขาด ไม่ควรจะวางใจเลย
มงคลที่ ๒๕ มีความกตัญญู - บุญคุณต้องทดแทน
พระกุมารคิดว่า ถ้าเราได้เป็นกษัตริย์แล้ว จะฆ่าพระฤๅษีองค์นี้ให้ได้ จึง กล่าวว่า พระคุณเจ้าผู้เจริญ เมื่อกระผมได้ครองราชสมบัติแล้ว ขอให้ท่านไปหากระผม กระผมจะบำรุงอุปัฏฐากรับใช้ท่านอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย แล้วก็ลากลับเมือง เมื่อพระกุมารกลับเข้าพระนครไม่นาน ก็ทรง ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 106
อาจารย์ทั้ง ๔ เมื่อต่างก็ต้องมาตกอยู่ในภาวะคับขัน ที่เหลียวมองไปทางใดก็ยังไม่เห็นว่าจะมีทางรอดพ้นไปได้ ความเหิมเกริมคิดจะชิงดีชิงเด่นกับมโหสถบัณฑิตจึงหมดสิ้นไปจากใจ เปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัวต่อเงื้อมมือแห่งมฤตยู ที่กำลังมายื่นรอปลิดชีวิตของพวกตนอยู่ต่อหน้า
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 105
บัดนี้อาจารย์ทั้ง ๔ ผู้ที่พยายามให้ร้ายป้ายสีคิดทำลายมโหสถ ทำให้ได้รับความลำบากลำบนหลายครั้งหลายครา ซึ่งมโหสถก็ให้อภัยไม่ถือสาหาความเรื่อยมา ในครั้งนี้ หากมโหสถไม่คิดปราณี ก็เห็นทีว่า พวกเขาคงไม่มีชีวีเหลือรอดเป็นแน่
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 81
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่ามโหสถจะสิ้นปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตนเองอย่างสิ้นเชิง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ที่ท่านต้องหนีไปก่อนนั้น เพราะต้องการให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ซึ่งเมื่อตนหลบไปก่อนแล้ว พระราชาก็จะไม่ระแวงในกำลังคนของตน และในไม่ช้าความจริงก็ต้องปรากฏ
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 80
นางอมรา เทวี็ให้บริวารนำตัวอาจารย์ทั้ง ๔ ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้หมดจด เอามีดโกนทื่อ ๆ โกนผมและหนวดจนโล้น แล้วขัดตัวด้วยแผ่นอิฐจนเลือดไหลซิบๆ จากนั้นก็ให้เอาแป้งเปียกไล้ทาจนทั่วตัว แล้วโรยนุ่นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าจนมองดูขาวโพลนไปทั้งตัว
มงคลที่ ๒๑ ไม่ประมาทในธรรม - อย่างหลงใหลเพลิดเพลิน
สมัยหนึ่งในกรุงราชคฤห์ มีหญิงงามเมืองผู้มีความงดงามคนหนึ่ง ชื่อ สิริมา ได้เคยประทุษร้ายต่อนางอุตตรา ซึ่งเป็นลูกสาวของท่านปุณณเศรษฐี เมื่อสำนึกผิดแล้วได้ขอโทษนางอุตตรา และทูลขอขมาโทษพระบรมศาสดาด้วย ในวันนั้น หลังจากได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระบรมศาสดาว่าพึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 77
กระทั่งวันหนึ่ง ก็มีของขวัญล้ำค่าบรรจุห่ออย่างดี ถูกส่งจากเรือนของอาจารย์เสนกะเพื่อนำมามอบให้แด่นางอมรา นางอมราเทวีได้รับบรรณาการที่มีผู้นำมาให้แล้ว ก็รู้ความประสงค์ของอาจารย์เสนกะ นางจึงดำริในใจว่า “ช่างน่าขันเสียจริง จู่ๆเสือก็เผ่นเข้ามาหาจั่นเอง ทีนี้ล่ะ เราจะทำให้อาจารย์ทั้งสี่ได้รู้จักเข็ดหลาบเสียบ้าง”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 76
มโหสถได้ฟังดังนั้นก็เบาใจ รีบปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา แล้วเดินทางออกจากกรุงมิถิลามุ่งไปทางใต้สู่บ้านทักขิณยวมัชฌคามในทันที เพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น ข่าวที่มโหสถบัณฑิตหนีออกจากกรุงมิถิลา ก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็มีเสียงโจษจันกันไปทั่วทั้งมิถิลานครว่า “บัดนี้ ท่านมโหสถบัณฑิตผู้เป็นมิ่งขวัญของชาวมิถิลานคร ได้จากพวกเราไปเสียแล้ว”
มงคลที่ ๑๗ สงเคราะห์ญาติ - รอดตาย...เพราะอาศัยญาติ
เราจะเห็นว่า การสงเคราะห์ญาตินั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตพวกเรา เพราะหมู่ญาติจะเป็นที่พึ่งเป็นทั้งบริวาร และสหายธรรมในการทำความดี เมื่อเราสงเคราะห์ญาติ ญาติก็จะสงเคราะห์เราเช่นกัน เมื่อต่างสงเคราะห์กันและกันอย่างนี้ โลกจะมีความสุขและดำรงอยู่ต่อไปได้ เหมือนรถมีตัวรถ มีล้อ แอก เพลา คํ้าจุนกันไป
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 50
ขณะที่กำลังเสด็จผ่านต้นมะเดื่อนั้น ท้าวเธอก็ทรงทอดพระเนตรเห็นนางนั่งอยู่ลำพังผู้เดียวบนคาคบต้นมะเดื่อ จึงทรงขอเหนี่ยวพระคชาธารให้หยุดรอ ขณะที่เหล่าข้าราชบริพารที่เหลือ ต่างพากันจ้องมองนางอย่างไม่กระพริบตา
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 49
ธรรมดาว่าคู่หนุ่มสาวเมื่อร่วมเดินทางย่อมสนทนา ปราศรัย ชี้ชวนกันชมนกชมไม้เพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หนทางที่ว่าไกลก็จะเป็นเหมือนใกล้เพราะมีคนรู้ใจเป็นสหายร่วมทาง แต่สำหรับปิงคุตตระแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เขากลับพยายามเร่งก้าวเดินเพื่อจะให้ถึงมิถิลานครโดยเร็ว จนทิ้งห่างนางไป
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 48
ทรงดำริพลาง มีพระดำรัสถามว่า “พ่อมโหสถ เธอจำกิ้งก่าตัวนี้ได้ไหมเล่า” “จำได้อย่างแน่นอนพระเจ้าข้า” มโหสถทูลตอบ “เธอดูซิ ประหลาดไหมเล่า เจ้ากิ้งก่าตัวนี้ เมื่อก่อนพอมันเห็นเรา ก็วิ่งลงมาซบแทบพื้นดิน ครั้งนั้นเธอเคยบอกเราว่ามันแสดงความเคารพเรา แต่มาวันนี้ ทำไมดูมันช่างกระด้างกระเดื่องเช่นนั้น เธอทราบหรือไม่ว่า เพราะเหตุอันใด มันจึงยังคงเกาะนิ่ง เชิดหัวชูคออยู่เช่นนั้น”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 47
ท้าวเธอทรงผินพระพักตร์ไปทางเหล่าราชบุรุษ ตรัสพลางแย้มพระสรวลว่า “เออ....พวกเจ้าจงดูนี่สิ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็ยังรู้จักทำความเคารพ ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง แล้วพวกเจ้าล่ะ จะสู้มันได้รึ” พวกราชบุรุษได้ฟังเช่นนั้น ก็หันมามองหน้ากันเลิกลั่ก
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 46
แม้ว่าท้าวเธอจะทรงฉงนพระทัยสักเพียงใด แต่ครั้นได้ทรงนึกถึงข้อพิสูจน์ที่มโหสถบัณฑิตค่อยๆเปิดเผยให้ปรากฏเป็นที่ ประจักษ์ก่อนหน้านี้ จึงไม่ทรงคัดค้านสิ่งใดอีก ในที่สุด จึงได้มีรับสั่งกับราชบุรุษผู้หนึ่งว่า “เจ้าจงขึ้นไปดูให้รู้แน่ ว่าบนต้นตาลนั้นมีแก้วมณีอยู่จริงหรือไม่ หากว่าพบแก้วมณีแล้ว ก็จงนำมาให้เราเถิด”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 44
ขอเดชะพระบารมีปกเกล้า ข้าพระพุทธเจ้าให้คนจัดการวิดน้ำและลอกโคลนเลนในสระโบกขรณีขึ้นแล้ว แต่จนป่านนี้แล้ว ก็ยังไม่พบแก้วมณีนั้นเลย พระพุทธเจ้าข้า ท้าวเธอก็ทรงเห็นด้วยว่าประหลาดจริงเชียว ธรรมดาเงากับตัวก็ย่อมจะอยู่คู่กัน มีเงาก็ต้องมีตัว เมื่อมีแสงแก้วก็ต้องมีดวงแก้ว แต่นี่เห็นแสงแว้บวับ แต่พอจะหา กลับไม่พบ เป็นไปได้อย่างไรกัน
มงคลที่ ๑๖ ประพฤติธรรม - เวลาอันทรงคุณค่ายิ่ง
มีพระราชาพระองค์หนึ่งพระนามว่า “เอสุการี” พระองค์มีปุโรหิตเป็นสหายรักตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ ทั้งพระราชาและปุโรหิตต่างไม่มีพระโอรสที่จะสืบสกุล วันหนึ่ง พระราชาและปุโรหิตปรึกษาหารือกันว่า ถ้าหากบุตรของใครเกิดก่อน บุตรของคนนั้นจะได้ครอบครองราชสมบัติ
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - มหาทาน คือ เสบียงสู่ความหลุดพ้น
วันหนึ่งพระเจ้าเภรุวมหาราชทอดพระเนตรโรงทานของพระองค์ ทรงดำริว่า ปฏิคาหก ผู้รับทานของเรานี้ ล้วนเป็นผู้ทุศีล บริโภคทานแล้วไม่ทำให้จิตใจของทายกยินดีเลย ทำอย่างไรหนอเราจึงจะได้เนื้อนาบุญ เราปรารถนาจะถวายทานกับพระปัจเจกพุทธเจ้า
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - เลิกตระหนี่ตลอดไป (๒)
แม้เป็นเศรษฐีแล้ว ยังต้องให้ทาน จะได้รวยข้ามชาติ ไม่ ใช่เกิดมาเสวยสมบัติอย่างเดียว ส่วนท่านที่ยังลำบากยากจน ต้องเริ่มให้ทานได้แล้ว จะรอให้รวยแล้วจึงทำทานไม่ได้หรอก ต้องทำทานไปเรื่อยๆ ถึงจะรวย งานทางโลกเราก็ทุ่มเททำกันไป งานบุญงานกุศลก็ทำกันไป ให้เศรษฐกิจกับจิตใจไปด้วยกัน